เริ่มที่ภูมิต้านทาน ดร.สาทิส อินทรกำแหง

เรื่องของภูมิชีวิต

ดร.สาทิส อินทรกำแหง

หน้า 1-5                                                        

                                                                เริ่มที่ภูมิต้านทาน

     ผมกำลังนึกว่าถึงเวลาที่เราควรจะศึกษาเรื่องภูมิชีวิต หรือ Immune System กันอย่างละเอียดเสียที
 
    เราได้รับภูมิต้านทาน (ตอนนี้ขอเรียกว่าภูมิต้านทานก่อน เพราะเป็นภูมิแรก  เมื่อคุยกันถึงภูมิอื่น ๆ ครบถ้วนแล้ว  เราจึงจะเรียกว่าภูมิชีวิต) มาจากแม่ของเรา

น้ำนมแม่ colostum     เมื่อเริ่มดื่มนมแม่  นมแม่จะมีน้ำข้นเหลือง ๆ ออกมาก่อน  นั่นคือ Colostrum หรือน้ำนมเหลือง

     นั่นคือภูมิต้านทานเริ่มแรกซึ่งแม่จะถ่ายทอดมาสู่ลูกน้อย  ภูมิต้านทานแรกนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกน้อยป่วยง่าย อย่างเช่น ท้องเสีย ท้องเดิน ปวดท้อง

     อาการต่าง ๆ เหล่านี้ ลูกที่กินนมแม่จะไม่มี  แต่ลูกที่กินนมวัวหรือนมผงจะมีอาการท้องเสียแต่แรก

     แต่ Colostrum นี้จะอยู่ในลูกน้อยได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น ในระหว่างนี้ลูกจะเริ่มเจริญเติบโตไปเรื่อย ๆ ระหว่างเจริญเติบโตลูกก็จะเริ่มสร้างภูมิต้านทานของตัวเอง  ร่างกายของลูกจะแข็งแรงมาก  ก็เพราะมี Colostrum เป็นพื้นฐานขยายภูมิต้านทานทั่วทั้งตัวลูกน้อยได้อย่างสมบูรณ์

     น้ำนม Colostrum นั้นประกอบไปด้วยโปรตีนประมาณ 20% และมีแร่ธาตุ คาร์โบไฮเดรต และไขมันอยู่ด้วย  ถ้าเทียบกับนมแม่สีขาวแล้ว  สารต่าง ๆ ในนม Colostrum มีน้อยกว่านมขาว  แต่มีลักษณะเป็น Antibodies มากที่สุด

     Antibodies คือกลุ่มโมเลกุลสร้างจากต่อมน้ำเหลือง  มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และกลุ่มจุลชีวะต่าง ๆ นอกร่างกายซึ่งเข้ามาอยู่ในตัวเรา

     Antibodies เรียกกันอีกอย่างว่า Immuno Globulins

     ตกลงในตอนนี้เราก็จะเห็นแล้วว่าภูมิต้านทานของเรามีตั้งแต่เราเกิด (ถ้ากินนมแม่) ภูมิต้านทานจากแม่ของเราอยู่ได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น

     แต่เมื่อหลัง 6 เดือนแล้ว  เด็กจะเริ่มสร้างภูมิต้านทานของตัวเองและภูมิต้านทานนี้ก็จะขยายมากขึ้นเมื่อโตขึ้นมาแล้ว

     ภูมิต้านทานขั้นต้นจึงหมายถึงระบบคุ้มกัน ป้องกัน และปราบปรามของร่างกาย

     เพราะทุกขณะทุกวินาที  ร่างกายเราต้องผจญกับความเป็นความตาย  ซึ่งมาจากศัตรูซึ่งมองไม่เห็นตัว  ไวรัสบีซึ่งมองด้วยไมโครสโคปธรรมดาก็มองไม่เห็น  หรือแบคทีเรียซึ่งแอบซ่อนอยู่ในผนังปอด  หรือที่คอยทำลายกลุ่มเนื้อต่าง ๆ ของหัวใจ

     ศัตรูเหล่านี้มองไม่เห็นตัว  ถ้าไม่มีภูมิต้านทาน  เราก็คงเสียชีวิตไปอย่างเงียบ ๆ และรวดเร็ว  แต่ถ้าเรามีภูมิต้านทาน  ก็จะจัดการปราบปรามเชื้อโรคและป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกด้วยวิธีการและกระบวนการซึ่งน่าพิศวงอย่างยิ่ง

     สมมติว่าคุณป่วยเป็นโรคตับอักเสบไวรัสบี  ที่น่าอัศจรรย์ก่อนเพื่อนก็คือ  ไวรัสบีมันก็คือเส้นกลมของ DNA ห่อหุ้มไว้ด้วยโปรตีน  ถ้าจะมองด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดาก็จะมองไม่เห็น  นอกจากจะใช้มองด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน

     ทั้ง ๆ ที่ตัวเล็กมากจนมองไม่เห็นด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดาเช่นนี้แหละ แต่ความร้ายแรงของมันมีเหลือหลาย  มันจะเข้าไปถึงกลุ่มทิชชูของตับของคุณ

     มันจะแทงตัวของมันเข้าไปในเซลล์ของตับ  และด้วยความสามารถเหมือนขบถในประเทศ  มันสามารถขโมยพลังจากเซลล์ของตับสร้างตัวเองมันใหม่เพิ่มขึ้นอีก  ในเซลล์ของตับเพียงเซลล์เดียว  ไวรัสใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้เป็นพัน ๆ ตัว

     และไวรัสพัน ๆ ตัวจากเซลล์ของตับเซลล์เดียวนี้  มันก็จะระเบิดตัวของมันออกจากเซลล์เดียวของตับ  กระจากต่อไปที่เซลล์ตัวอื่น ๆ และจะสร้างไวรัสใหม่ขึ้นมาอีกพัน ๆ ตัว แล้วก็จะระเบิดตัวต่อไปอีก  เข้าไปในเซลล์ใหม่ของตับอีก  ชั่วประเดี๋ยวเดียวตับทั้งตับก็เต็มไปด้วยไวรัสบี

     การระเบิดตัวหรือการกระจายของไวรัสตับนี้  ถ้าหากไม่มีใครมายุ่งกับมัน  มันก็จะกระจายของมันไปเรื่อย ๆ หมดทั้งตับ

     ชั่วเวลาไม่กี่ชั่วโมง  ตับของคุณทำงานไม่ได้  ตับก็วาย คุณก็ตาย ตายง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากอีก

     แต่ว่ามันก็ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก  เพราะถ้าง่ายอย่างนั้นจริง ป่านนี้มนุษย์ในโลก 6 พันล้านคน  จะไม่มีใครมีชีวิตรอดแม้แต่คนเดียว

     เพราะอะไรเราจึงไม่ตายกันหมด  ก็เพราะเรามีระบบภูมิต้านทานอยู่ในตัวเรานั่นนะซี

ภูมิต้านทาน     ระบบภูมิต้านทานนี้เมื่อสมัยแรก ๆ เรารู้จักกันแต่ว่ามันคือ เลือดขาว Leukocyte

     ในระบบโลหิตของเราซึ่งไหลเวียนไปทั่วทุกส่วนทุกเซลล์ของร่างกายในผิวหนัง  ในกล้ามเนื้อ  อวัยวะภายในทุกส่วนจะมีเลือดขาวอยู่ไปทั่ว  หน้าที่ของเลือดขาวก็ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว คือ ป้องกัน ปราบปราม และควบคุม ไม่ให้ผู้ร้ายที่แอบเข้ามาในร่างกายมีชีวิตอยู่ มันจะถือว่าเป็นศัตรู และเมื่อเป็นศัตรูแล้วก็ต้องฆ่า ฆ่า ฆ่า ไม่ให้เหลือหลอด

     ในเลือดขาวนี้จะมีหลายชนิดและหลายกลุ่ม กลุ่มแรกเราเรียกว่า Phagocyte ซึ่งแปลว่าตัว "กินเซลล์" (Cell Eater)

     วิธีที่ตัว "กินเซลล์" จะทำลายไวรัสก็คือ  มันต้องไปล้อมกรอบเจ้าไวรัสบีไว้ก่อน  แล้วก็จะรุมกันเข้าไปเขมือบหรือกินไวรัสเหล่านั้น

     แกอยากระเบิด อยากกระจายแล้วก็เกิดใหม่ ก็เกิดไป ฉันก็จะตามแกไปล้อมแกไว้  แล้วก็เขมือบแกให้สิ้น นี่คือ Phagocyte หรือตำรวจกองปราบ

     ตอนนี้อยู่ระหว่างใครดีใครได้ระหว่าง Phagocyte และไวรัสบี

     ผลของมันมักจะปรากฎว่าคุณ Phagocyte มักจะแพ้ เพราะไวรัสบีมันขยายตัวเร็วเหลือเกิน

     เจ้า Phagocyte ก็ต้องไปเรียก T Lymphocytes มาช่วย เจ้า T Lymphocytes หรือเรียกง่าย ๆ ว่า T Cell เหมือนนายเหนือหัวของเจ้า Phagocyte มันเป็นกองปราบซึ่งมีสายลับและสายสืบอยู่ด้วย  สายลับนี้จะบอกว่าเจ้าไวรัสบีนี้คือใคร เป็นใครมาจากไหน เมื่อรู้แล้วก็จัดกองปราบเฉพาะมาจัดการกับเจ้าไวรัสบีต่อไป

     ถ้ายังเพลี่ยงพล้ำอยู่อีก เจ้า T Cell ตัวนี้ก็ยังมีหน่วยหนุน หรือ T Cell Helper เข้ามาช่วยอีก

     หน่วยหนุนเข้ามาช่วยก็ยังเพลี่ยงพล้ำอยู่ ทีนี้ก็ต้องเรียกตำรวจทุกสถานีเข้ามารวมกัน ตำรวจทุกสถานีนี้ก็คือ B Lymphocyte หรือ B Cell

     เจ้า B Cell นี้สามารถสร้างแอนติบอดี (Antibodies) ขึ้นมาได้ เจ้าตัวแอนติบอดี้จะเรียกว่าตำรวจเฉพาะกิจก็คงได้  เพราะฉะนั้นตำรวจเฉพาะกิจกลุ่มนี้ก็จะเฉพาะกิจเพื่อฆ่าเจ้าไวรัสบีอย่างเดียว อย่างอื่นไม่เกี่ยว

เม็ดเลือดขาว (สีเขียว) กินเซลล์มะเร็ง (สีขาว)     เมื่อได้รวมกลุ่มกันอย่างนี้  เจ้าไวรัสบีจึงจะอ่อนตัวจนยอมสยบลงได้  ตกลงเราก็จะเห็นว่าการทำงานของเลือดขาวนั้นเป็นขั้นตอน เป็นระบบ  ตอนต้นเจ้า Phagocyte คงจะเหมือนกับสายตรวจหรือหน่วยลาดตระเวน  พอเจอผู้ร้ายก็เข้าล้อมและจัดการเขมือบก่อน

     พอไม่สำเร็จก็ต้องเรียกกองปราบ

     ยังไม่สำเร็จอีก  กองปราบก็ต้องเรียกกองเสริมและสายสืบมาช่วย
     ต่อจากนั้นก็ต้องเรียกกองปราบเฉพาะกิจ  คือแอนติบอดี้เข้ามา

     เจ้าแอนติบอดี้นี้กล่าวกันว่ามันจะอยู่ในร่างกายเราได้นาน ๆ  นานจนตลอดชีวิตก็มี และแอนติบอดี้มีหน้าที่เฉพาะกิจ  ทำงานปราบปรามผู้ร้ายเฉพาะกลุ่มได้กลุ่มเดียว ปราบปรามผู้ร้ายกลุ่มอื่นไม่ได้

     อย่างเช่นตั้งหน่วยปราบยาเสพติดขึ้นมา  หน่วยปราบนั้นก็ปราบแต่ยาเสพติดเท่านั้น  จะไปดับเพลิงหรือเป็นตำรวจจราจรย่อมไม่ได้

     

 

 ผลิตภัณฑ์แนะนำ

กลุ่มผลิตภัณฑ์ ทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ เสริมภูมิคุ่มกัน                      

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2