เลือกให้ถูกเพื่อกระดูกที่แข็งแรง

เลือกให้ถูกเพื่อกระดูกที่แข็งแรง

 

     กระดูกที่แข็งแรงสามารถเริ่มดูแลได้ตั้งแต่วัยทารกที่อยู่ในครรภ์มารดาจนถึงวัยผู้สูงอายุ เพราะกระดูกมีพัฒนาการและเจริญเติบโตตามวัย โดยมวลกระดูกจะมีความหนาแน่นสูงสุดเมื่ออายุ 25–30 ปี จากนั้นจะคงที่อย่างนี้ต่อไปอีกประมาณ 10 ปีหรือ เมื่ออายุ 40 ปี และความหนาแน่นของมวลกระดูกจะลดลงตาม อายุที่เพิ่มขึ้น

     เพศหญิงมีอัตราเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนมากกว่าเพศชาย มวลกระดูกของผู้หญิงจะเริ่มลดหรือบางลงตั้งแต่ช่วงวัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากร่างกายไม่ผลิตฮอร์โมนเพศหญิง (estrogen hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยสร้างเนื้อกระดูก จึงทำให้ความหนาแน่นของกระดูก ลดลง สำหรับฮอร์โมนเพศชาย (testosterone hormone) จะลดลงเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ จึงทำให้ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลงช้ากว่าผู้หญิง

     แคลเซียม แร่ธาตุพิทักษ์กระดูก

     แคลเซียม (calcium) เป็นแร่ธาตุที่มีมากที่สุดในร่างกาย (ประมาณ 1.5-2% ของน้ำหนักตัว) ร่างกายได้รับ แคลเซียมจากอาหารเท่านั้น โดยแคลเซียมจะผ่านการย่อยและดูดซึมที่ลำไส้เล็ก และถูกส่งไปยังอวัยวะต่างๆ ผ่านระบบการหมุนเวียนของโลหิต แคลเซียมช่วยส่งเสริมพัฒนาการและโครงสร้างกระดูกให้กับทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับมารดาหลังคลอด รักษาความหนาแน่นของกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงทุกช่วงวัย ลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนในวัยสูงอายุ นอกจากนี้ถ้าร่างกายได้รับแคลเซียมที่เพียงพอจะช่วยรักษาสมดุลของ สารเคมีในเลือดให้ทำงานร่วมกันเป็นปกติ ป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง ลดการเกิดตะคริว

     เลือกกินแคลเซียมจากธรรมชาติ

     มีอาหารหลากหลายชนิดที่อุดมไปด้วยแคลเซียมที่จะทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ อาหาร ดังกล่าว ได้แก่

     - นมวัวหรือนมถั่วเหลืองเพิ่มแคลเซียม ควรดื่ม เป็นประจำวันละ 1 แก้ว จะได้รับแคลเซียม 250-400 มิลลิกรัม ถ้าไม่ชอบดื่มนม อาจเลือกผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต ชีส เป็นอาหารว่าง หรือปรุงอาหารด้วยนมแทนกะทิ เช่น แกงเขียวหวาน กล้วยบวชชี ไข่ตุ๋นนมสด ถั่วแดงเย็น


     - ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ใช้ปรุงอาหารร่วมกับ เนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เต้าหู้ผัดหมูสับ แกงจืดฟองเต้าหู้กุ้งสด คะน้าผัดเต้าเจี้ยว เป็นต้น เต้าหู้เหลืองขนาด 1 ก้อนจะมีปริมาณแคลเซียม 200 มิลลิกรัม 


     - งา คั่วหอมๆ บุบพอละเอียดผสมในอาหารจานโปรด เช่น สลัดผลไม้ โรยหน้าโยเกิร์ต ใส่ในซุปครีม ผสมกับซีเรียลก็จะเป็นอาหารเช้าที่หอมอร่อยและมีแคลเซียมเพิ่มขึ้นอีกด้วย งาคั่วดิบ 100 กรัม มีแคลเซียม 1,000 มิลลิกรัม 


     - อัลมอนต์ เหมาะสำหรับทดแทนขนมกรุบกรอบ รับประทานวันละ 10 เม็ด จะเพิ่มแคลเซียมให้ร่างกาย 32 มิลลิกรัม 


     - ปลาหรือสัตว์ที่รับประทานได้ทั้งกระดูก จะมีปริมาณแคลเซียมสูง ในปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ กุ้งแห้งตัวเล็ก มีแคลเซียม 140 มิลลิกรัม ในขณะที่ ปลาข้าวสารมี 35 มิลลิกรัม ปลาตัวเล็ก 100 มิลลิกรัม และปลาซาร์ดีนกระป๋อง 90 มิลลิกรัม 


     - ผักสีเขียว เติมเต็มผักทุกมื้ออาหาร เช่น คะน้า กวางตุ้ง ตำลึง ถั่วพู ใบบัวบกใบยอ บรอคโคลี โดยเฉลี่ยผักใบเขียวที่มีสีเข้มปรุงสุกปริมาณ 1 ทัพพีจะมีแคลเซียม 50-80 มิลลิกรัม

 

     มิตรแท้คู่แคลเซียม 

     วิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยเสริมสร้างกลไกการทำงานของแคลเซียมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ได้แก่

     - ฟอสฟอรัส ช่วยสร้างความหนาแน่นให้กับกระดูก พบในนม ถั่ว ข้าวโพด ไข่แดง

     - วิตามินดี ช่วยดูดซึมแคลเซียม ได้จากการรับแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเวลาเช้าและเย็นนาน 10-15 นาทีเป็นประจำ และกินอาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น นม ปลาแซลมอน เห็ด ไข่แดง ตับ เนย

     - แมกนีเซียม ถ้าร่างกายได้รับจากอาหารไม่เพียงพอจะถูกดึงออกมาจากกระดูกเพื่อช่วยในการรักษาภาวะสมดุลของแมกนีเซียมในเลือด แหล่งในอาหาร ได้แก่ นม ถั่ว ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี และผักใบเขียว

     

     ผลิตภัณฑ์แนะนำ

     CM (ซีเอ็ม) : แคลเซียมอะมิโนแอซิดคีเลต + แมกนีเซียมอะมิโนแอซิดคีเลต + สังกะสี + วิตามินดี + โบรอน ช่วยบำรุงกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน เสริมระบบกล้ามเนื้อหัวใจ, กล้ามเนื้อ, ระบบประสาท 

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2