สารสกัดจากเมล็ดองุ่น

สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract) 

     สารสกัดจากเมล็ดองุ่น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด โดยยับยั้งการทำลายคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ และยังมีประโยชน์ต่อหัวใจ โดยมีผลคล้ายยาแอสไพรินในการชะลอการก่อตัวของลิ่มเลือด

     สารสำคัญที่พบในสารสกัดเมล็ดองุ่น จัดอยู่ในกลุ่มไบโอฟลาโวนอยด์ คือ Oligomeric Proanthocyanidin Complexes (OPCs) เป็นสารที่พบในเมล็ด ดอกและเปลือก ของผักผลไม้เปลือกแข็ง เป็นหนึ่งในสารตระกูลฟลาโวนอยด์ ถูกค้นพบโดย ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ แจ๊ค มาสเควอริเย (Dr. Jack Masquelier) ชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ค้นคว้าและคิดค้นการสกัดสาร OPC ให้มีความบริสุทธิ์โดยปราศจากสารปลอมปนพวกแทนนิน (สารรสฝาด ที่มีโมเลกุลใหญ่กว่า OPC)

     OPC เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เคลื่อนที่ได้คล่องแคล่ว มีอนุภาพสูงกว่าวิตามินซี 20 เท่า และสูงกว่าวิตามินอีกว่า 50 เท่า จึงได้รับขนานนามว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง (Super antioxidant) นอกจากนี้เมื่อทาน OPC ร่วมกับวิตามินซี จะช่วยเสริมฤทธิ์ให้วิตามินซีที่ถูกใช้ให้คืนสภาพกลับมาใช้ใหม่ได้ บางคนจึงเรียก OPC ว่าเป็น Vitamin C cofactor อีกทั้งยังสามารถละลายได้ทั้งในน้ำและในน้ำมัน จึงสามารถแทรกซึมไปได้ทุกส่วนของเซลล์ร่างกาย แม้กระทั่งเซลล์สมอง เพราะสามารถผ่านเยื่อหุ้มหลอดเลือดสมองไปยังเนื้อสมองได้(Blood Brain Barrier) จึงน่าจะสามารถเป็นอาหารเสริมที่ดูแลร่างกายแบบองค์รวมที่ดี

     OPC มีขนาดโมเลกุลเล็ก คือมีสาร Proanthocyanidins มีเพียง 2–3 กลุ่มโมเลกุล หรือไม่เกิน 5 โมเลกุล (เราจึงเรียกว่า Oligomeric ซึ่งแปลว่า 1- 3 ) หลายบริษัทที่ผลิตมักล้มเหลวในการแยกสาร Proanthocyanidins ที่มีจำนวนโมเลกุลมากกว่า 5 โมเลกุล ซึ่งเราเรียกว่า Polymeric Proanthocyanidins (PPCs) หนึ่งในนั้นคือ สารแทนนิน หรือสารรสฝาดที่มีโมเลกุลใหญ่เกินที่จะผ่านเนื้อเยื่อต่างๆได้ อีกทั้งยังขัดขวางการดูดซึมของ OPC และการบริโภคเมล็ดองุ่นที่ไม่มีคุณภาพในปริมาณที่มาก อาจได้รับสารแทนนินเกินจำเป็นจนอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นแหล่งวัตถุดิบที่น่าเชื่อถือ มีการสกัดที่ซับซ้อนแยกสารปลอมปนออกไป

     OPC ที่สกัดจากเมล็ดองุ่น ยังมี OPC เข้มข้นถึง 80-95 % ในขณะที่สกัดจากเปลือกสนจะมี OPC เพียง 85% (สารสกัดจากเมล็ดองุ่น มีสัดส่วนของ OPCs ชนิดต่างๆ ต่างจากสารสกัดจากเปลือกสน จึงทำให้คุณสมบัติแตกต่างกัน โดยที่สารสกัดจากเปลือกสนจะเด่นในเรื่องลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ

     สรุปคุณสมบัติของ Oligomeric Proanthocyanidin Complexes (OPCs) จากเมล็ดองุ่น

     - เป็น Super antioxidant สามารถจับกับอนุมูลอิสระได้ดี ต้านอนุมูลอิสระได้ทุกรูปแบบและจำนวนมาก

     - ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 20 – 30 นาที จากนั้นจึงกระจายไปสู่อวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ และยังคงอยู่ภายในร่างกายได้นาน 72 ชั่วโมง

     - สามารถรวมตัวได้ดีกับคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง หลอดเลือดและอวัยวะต่างๆ จึงทำให้เซลล์ผิวหนังแข็งแรงไม่เหี่ยวย่น หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นดี ไม่เปราะหรือแตกง่าย และผลที่น่าพอใจมาก คือ กรณีเส้นเลือดขอด (varicose vein) ริดสีดวงทวาร โดยเฉพาะอวัยวะที่มีเส้นเลือดฝอยละเอียดอ่อนมากที่สุด คือ ดวงตา ซึ่ง Retina ต้องใช้เลือดหล่อเลี้ยงมาก จึงใช้ในการป้องกัน การเสื่อมของดวงตา โรคต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อม จากโรคเบาหวาน (หลอดเลือดฝอยเสื่อมสภาพจากน้ำตาลล้นเกิน)

     - ทำงานร่วมกับวิตามินซี ในการทำให้คอลลาเจนทั่วร่างกายแข็งแรงขึ้น และยังช่วยป้องกันการสูญเสียวิตามินซี และวิตามินอี

     - สามารถผ่านแนวกั้นสมอง (blood brain barrier) ได้ จึงป้องกันสมองมิให้เสียหายจากอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคสมองเสื่อมหรือ โรคอัลไซเมอร์ โดยที่ OPCs จะเข้าไปขัดขวางการทำลายเซลล์สมองจากอนุมูลอิสระ

     - ลดการหลั่งสารพรอสตาแกลนดินบางชนิด ที่ทำให้ปวดและอักเสบ จึงอาจใช้ลดอาการปวดก่อนมีประจำเดือนได้

     - ในระบบหัวใจและหลอดเลือด สารสกัดจากเมล็ดองุ่นจะช่วยยับยั้งการเกาะตัวของคอเลสเตอรอลที่ผนังหลอดเลือด เพิ่มความสามารถในการไหลเวียนโลหิต ส่งเสริมให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงไม่เปราะหรือแตกหักง่าย ช่วยบรรเทาอาการเส้นเลือดขอดหรือโป่งพองได้ ป้องกันโรคหัวใจ บรรเทาอาการมือและเท้าชา

     - ลดอาการภูมิแพ้ มีคุณสมบัติในการต้านสารฮีสตามีนจึงช่วยลดอาการภูมิแพ้ หอบหืด

     - ช่วยลดริ้วรอย ฝ้าและกระให้จางลง โดย OPCs จะช่วยต้านอนุมูลอิสระที่มาทำลายคอลลาเจน อิลาสตินและการผลิตเม็ดสี อันเป็นสาเหตุทำให้ผิวเสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร

     - จากคุณสมบัติยับยั้งเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้หลอดเลือดฝอยแข็งแรง สามารถนำสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิวได้ดี ดังนั้น สารสกัดจากเมล็ดองุ่น จึงช่วยให้ผิวยืดหยุ่นดี และดูสดใส มีน้ำมีนวลสวยอยู่เสมอ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด เพิ่มความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด

     

     นอกจากนี้ ยังพบสาร OPC จากเมล็ดองุ่น เป็นสารที่มีพิษต่อเซลล์มะเร็งบางประเภท เช่น เซลล์มะเร็งทรวงอกในมนุษย์ MCF-7, เซลล์มะเร็งปอดในมนุษย์ A-427 และเซลล์มะเร็งต่อมกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ สารสกัดจากเมล็ดองุ่นนี้ยังทำให้เกิดการเจริญเติบโตและการมีชีวิตอยู่ต่อไปของเซลล์เนื้อเยื่อเมือกในกระเพาะอาหาร สาร OPC จากเมล็ดองุ่นมีคุณสมบัติในการ Radioprotective (ป้องกันรังสี) กล่าวคือช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการได้รับรังสี สาร OPC จากเมล็ดองุ่นนี้มีประสิทธิภาพในการลดความเสียหายจากสารที่เกี่ยวข้องกับเคมีบำบัด (Chemotherapeutic Agents ซึ่งได้แก่ Idarubicin และ Cyclophosphamide) ที่เกิดขึ้นต่อเซลล์ตับ (Chang Liver Cell) และอาจมีประโยชน์ในการป้องกันพิษของสารเหล่านี้ในบุคคลที่อยู่ในระหว่างการบำบัดรักษาโรคมะเร็งด้วย สาร OPC จากเมล็ดองุ่นนี้ยังมีฤทธิ์ บรรเทาความเจ็บปวด ช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อเซลล์ตับ (Hepatocytes) และลดการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นบริเวณตับ

     มีการรายงานวิจัยเกี่ยวกับสารโอลิโกเมอริค โปรแอนโทไซยานิดีน สามารถยับยั้งการเสื่อมของ Mast Cells และสามารถป้องกัน มิให้เกิดการปลดปล่อยสารที่ทำให้เกิดการอักเสบในภายหลัง เช่น สาร Histamine และ Prostaglandins ดังนั้น ก็อาจจะมีประโยชน์ในการช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับภาวะแพ้และไซนัส (Sinus) ได้ นอกจากนี้ สาร OPC นี้ยังสามารถยับยั้งการเกิดเอนไซม์ Xanthine Oxidase ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำหน้าที่สร้างอนมูลอิสระออกมา

 

     สารสกัดเมล็ดองุ่น ช่วยลดน้ำตาลในเลือด อ.ดร.สุวิมล ทรัพย์วโรบล ภาควิชาโภชนาการและการกำหนดอาหาร เผยผลวิจัยสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันเบต้าเซลล์ ในตับอ่อน สร้างฮอร์โมนอินซูลิน ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย ส่วนการรับประทาน เมล็ดองุ่นและเคี้ยวเมล็ด ช่วยให้ร่างกายได้สารโพลิฟีนอลต้านอนุมูลอิสระในปริมาณหนึ่ง แต่ไม่ดีเท่ากับรับประทานสารสกัดเข้มข้นจากเมล็ดองุ่น

     จากการศึกษาพบว่าสารสกัดที่ได้ จากเมล็ดองุ่นสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ เมื่อนำมาศึกษาในหนูทดลองซึ่งมีการให้อาหาร ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง พบว่าสารสกัดจากเมล็ดองุ่นมีฤทธิ์ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ได้ รวมทั้งยังป้องกันเบต้าเซลล์ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ในตับอ่อน มีหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมนอินซูลิน ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย ซึ่งผู้ป่วยเบาหวานจะมีฮอร์โมนอินซูลินน้อย หรือตับอ่อนสร้างฮอร์โมนชนิดนี้ไม่เพียงพอ รวมถึงฮอร์โมนอินซูลินในร่างกายผู้ป่วยทำงานได้ไม่ดี

     อ.ดร.สุวิมล และคณะ ซึ่งศึกษาวิจัยเรื่อง "ผลของสารสกัดจากเมล็ดองุ่นต่อระดับน้ำตาลหลังอาหารในอาสาสมัคร ที่มีสุขภาพดี" เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีคนจำนวนมากประสบปัญหาเป็นโรคเบาหวานและมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ในทางโภชนาการ นอกจากการให้ความรู้แก่ผู้ป่วย รวมถึงประชาชนทั่วไปในการป้องกันตนเองไม่ให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นแล้ว ยังมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อให้ได้สารที่สกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์ในการ ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ หนึ่งในนั้นคือ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น

     ข้อควรระวัง : อาจมีผลในการชะลอการแข็งตัวของเลือด จึงควรหยุดรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัดหรือทำฟัน ให้หยุดรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่น หากคุณรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาต้านเกล็ดเลือด หรือ เป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด

     ขนาดการรับประทาน ควรรับประทานพร้อมอาหารพร้อมอาหารเช้า ในปริมาณตามวัตถุประสงค์ดังนี้

     - แก้ไขปัญหาเส้นเลือดขอด ประมาณ 200 มิลลิกรัมต่อวัน

     - ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งส่งผลต่อความสดใสของผิว ประมาณ 100 มิลลิกรัม ต่อวัน

     - ลดคอเลสเตอรอล ประมาณวันละ 600 มิลลิกรัม

 

     ผลิตภัณฑ์แนะนำ

     PBGS+ (พีบีจีเอส พลัส) : สารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ จาก สารสกัดจากเปลือกสน, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น, สารสกัดจาก อะเซโรลา เชอรี่, สารสกัดจากชาเขียว, สารสกัดขมิ้น, ซีตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์  ช่วยต้านอนุมูลอิสระ, ชะลอความเสื่อม, ชะลอความชรา, ผิวพรรณสดใส, ลดริ้วรอย, ลดโรคหัวใจและหลอดเลือด, ลดการอักเสบ

 

 

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2