สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo Biloba)
เสริมระบบไหลเวียนเลือดและหลอดเลือด
ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองดี ฟื้นความจำ
ต้านอนุมูลอิสระ
มีชื่อสามัญเรียกกันหลายชื่อ เช่น Ginkgo, Maidenhair Tree, Forty-Coin Tree
แปะก๊วย เป็นพืชที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีกำเนิดมานาน ประมาณ 200 ล้านปีมาแล้ว แปะก๊วยบางต้นมีอายุยืนยาวมาก ปัจจุบันจะพบต้นแปะก๊วยปลูกเป็นไม้ประดับในหลายประเทศทั่วโลก เพราะเป็นพืชที่ทนทานต่อสิ่งแวดล้อมเชื้อโรค
เชื่อกันว่าต้นกำเนิดของต้นแปะก๊วยอยู่ที่ประเทศจีน ในประเทศจีนแปะก๊วยถือเป็นพืชมหัศจรรย์ที่ใช้กันแพร่หลายในเชิงรักษาโรค เมล็ดของแปะก๊วยถูกใช้ในการรักษาสุขภาพและเป็นยาอายุวัฒนะมานานกว่าพันปี
ในหลายศตวรรษต่อมา แปะก๊วยกลายเป็นพืชที่มีการสนใจทำการศึกษาค้นคว้าในห้องทดลองกันอย่างมาก โดยนักวิทยาศาสตร์ยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเยอรมันนี มีการทำการศึกษาถึงองค์ประกอบต่างๆ ทางเคมีของใบแปะก๊วย จนกระทั่งปัจจุบันใบแปะก๊วยได้ถูกทดลองมากมายถึงคุณสมบัติที่มี
สาระสำคัญในใบแปะก๊วย (Ginkgo)
- สารที่ได้จากการสกัดใบแปะก๊วย เป็นสาร Terpene Lactone ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีหลายชนิด คือ
- สารกลุ่ม Flavoneglycosides เช่น QinKqetin, Isoqinkqitin, Biobetin
- สารกลุ่มไดเทอร์ปีน เช่น Ginkgolides ชนิด A B C M
- สารกลุ่ม Bilobalide
- Proanthocyanides (โปรแอนโทไซยาไนด์)
- Catechines
โดยสารกลุ่ม Flavoneglycosides, กลุ่มไดเทอร์ปีน และกลุ่ม Bilobalide หากอยู่ร่วมกันจะมีผลในเรื่องการรักษา แต่หากแยกออกจากกันพบว่าไม่มีผลในด้านการรักษา
สารละลายที่ใช้ในการสกัดใบแปะก๊วยนั้นประกอบด้วยน้ำและสารละลายไขมันในอัตราส่วนที่เหมาะสมจึงจะได้สาระสำคัญออกมาในปริมาณมาก
ทั้งนี้ใบแปะก๊วยที่ปลูกต่างที่กันจะมีสารออกฤทธิ์ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่เพาะปลูก เช่น เรื่องธาตุอาหารในดิน สภาพอากาศ เช่นเดียวกับพืชชนิดอื่นๆ
การใช้สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo) ในการรักษาโรค
- ปวดขา มีหลายงานศึกษาให้ผลตรงกันโดยมีข้อมูลหนักแน่นว่า สามารถใช้สารสกัใบแปะก๊วยให้ผู้ป่วยทานรักษาอาการปวดขา เพราะเลือดไหลเวียนไม่ดี เพราะมีหลอดเลือดอุดตัน แม้ว่าจะได้ผลไม่ดีเท่ายาแผนปัจจุบัน
- ระบบไหลเวียนเลือดและหลอดเลือด ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาใบแปะก๊วยสกัดได้ถูกนำมาใช้ในการควบคุมการไหลเวียนของโลหิตและหลอดเลือด ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตเป็นปกติ และช่วยส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงสมอง มือ และเท้า ป้องกันอาการเส้นเลือดในสมองตีบ
- ฟื้นความจำและระบบสมอง สารสกัดจากใบแปะก๊วยช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองดี และฟื้นความจำ สำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์, สมองเสื่อม, เวียนศีรษะ, ปวดศีรษะ, มึนงง, ขาดสมาธิ, สับสน, วิตกกังวล ซึ่งเกิดจากการมีก้อนหรือลิ่มอุดตันหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงสมองได้ยาก
- ต้านอนุมูลอิสระ สารสกัดจากใบแปะก๊วยมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะทำหน้าที่ป้องกันการทำลายจากอนุมูลอิสระได้ เช่น บรรเทาโรคหลงลืมในผู้สูงอายุ เหนื่อยล้า สับสน โรควิตกกังวล หน้ามืด วิงเวียน หูอื้อ และช่วยรักษาโรคตาบางโรคที่เกี่ยวข้องกับการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงจอรับภาพที่ตา
- ต้อหิน มีการทดลองใช้ในผู้ป่วยโรคต้อหินหลายคน พบว่ามีการเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปที่ดวงตา ช่วยให้การมองเห็น ช่วยให้การมองเห็นดีขึ้นเล็กน้อย และมีการคาดหวังว่าจะช่วยป้องกันโรค AMD ได้ด้วย
- ริดสีดวงทวาร การศึกษาเบื้อต้นใช้ทดลองรักษาผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงทวาร เพราะหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักมีอาการขอด เลือดไหลเวียนไม่ดี เมื่อใช้ไปสักระยะพบว่าได้ผลดี แต่ก็ควรมีการศึกษาเพิ่มเติม
- โรคอื่นๆ ที่ใบแปะก๊วยจะมีประโยชน์ในการรักษาบ้างเหมือนกัน เช่น โรคหอบหืด, หลอดลมอักเสบ, หลอดลมตีบ, อาการปวดก่อนมีประจำเดือน, ภาวะหมดประจำเดือน, ระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยเบาหวาน
ข้อควรระวัง
ใบแปะก๊วยไม่ได้ช่วยบำรุงสมองเสริมความจำ แต่จะใช้กับคนที่เป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เพราะมีส่วนช่วยทำให้เส้นเลือดขยายขึ้น จึงมีส่วนช่วยความจำในผู้ที่หลอดเลือดตีบ
การใช้ใบแปะก๊วยในปริมาณมากและต่อเนื่อง อาจทำให้เส้นเลือดขยายมากจนเป็นอันตราย และถ้ามีบาดแผลหรือต้องผ่าตัด อาจจะทำให้เลือดไหลไม่หยุด
ได้มีการนำแปะก๊วยมาใช้ในทางการยา ในตำราของจีนใช้เป็นยาชง ซึ่งสามารถใช้รักษาโรคหืด โรคปอด และโรคหัวใจ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังส่วนเมล็ด เพราะมีสารพิษร้ายแรงอยู่ถึงขั้นทำให้เสียชีวิต
สารสกัด Ginkgolidi มีผลต้านการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ดังนั้นสารสกัดใบแปะก๊วยจึงมีข้อห้ามใช้ร่วมกับยาต้านการแข็งตัวของเลือด ไม่ใช้ร่วมกับน้ำมันปลา หรือสมุนไพรที่ทำให้เลือดไหลไม่หยุด
ความปลอดภัย
การศึกษาความเป็นพิษของสารสกัดจากใบแปะก๊วยในหนูโดยฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำพบว่า LD50เท่ากับ 7,725 มิลลิกรัมของน้ำหนักตัวหนู ซึ่งมากกว่าปริมาณที่คนทานหลายสิบเท่า
จากผลการทดลองนับได้ว่าสารสกัดจากใบแปะก๊วยนั้นมีความปลอดภัยสำหรับการใช้
ฤทธิ์ข้างเคียงของแปะก๊วยในผู้ใช้บางราย คือ อาการปวดศีรษะ ท้องไส้ปั่นป่วน ความผิดปกติของระบบประสาทเลือดไหลไม่หยุดขณะผ่าตัด
ผลิตภัณฑ์แนะนำ
บีซีวี (BCV) : บำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ, ลดไขมันหลอดเลือด, ช่วยให้หลอดเลือดยืดหยุ่น