คุณรู้หรือไม่ว่า...แคลเซียม อย่างเดียว ไม่เพียงพอต่อการบำรุงกระดูก
เพราะร่างกายไม่สามารถนำแคลเซียมไปใช้งานได้ ถ้าขาดตัวช่วยที่ดีอย่างแมกนีเซียม มีผลการวิจัยว่า ถ้ามีการรับประทานแมกนีเซียมควบคู่กับแคลเซียมแล้ว จะช่วยเพิ่มมวลกระดูกและลดอัตราการเป็นโรคกระดูกพรุนและฟันผุลงได้อย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้น การรับประทานแคลเซียมที่อยู่ในรูปของ "อะมิโนแอซิดคีเลต" จะช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่า "แคลเซียมคาร์บอเนต" ถึง 76% เช่นเดียวกันกับ "แมกนีเซียม อะมิโนแอซิดคีเลต" ที่ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้มากกว่าแมกนีเซียมออกไซด์ถึง 400%
ทำไมต้องเป็น "แคลเซียมและแมกนีเซียม อะมิโนแอซิดคีเลต"
เพราะหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนเราขาดแคลเซียม คือ แคลเซียมที่กินเข้าไปนั้น ดูดซึมได้ไม่ดีพอเพราะปัจจัยหลายอย่าง เช่น
- อารมณ์ผันแปร
- ขาดการออกกำลังกาย
- ช่วงของอวัยวะในการดูดซึมแคลเซียม คือ ลำไส้เล็กช่วงต้นมีความยาวเพียง 10-12 นิ้ว เท่านั้น และถูกแร่ธาตุอื่นมาแทนที่ในการดูดซึม
- การขาดกรดอะมิโนช่วยในการดูดซึม
- การใช้ยาลดกรดทำให้ขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม เป็นต้น
ดังนั้น มีเหตุผลมากมายที่เป็นอุปสรรคในการดูดซึมแคลเซียม แต่ถ้าทำให้แคลเซียมจับกับกรดอะมิโนและเป็นคีเลตที่สมบูรณ์แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะใด ร่างกายก็จะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ เพราะร่างกายเข้าใจว่า สิ่งที่ดูดซึมเข้าไปนั้น คือ กรดอะมิโน (โปรตีน) ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้ในช่วงกระบวนการดูดซึมสารอาหารที่ยาวนานมากกว่าด้วย เช่นเดียวกันกับแมกนีเซียมที่อยู่ในรูป "อะมิโนแอซิดคีเลต" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมไปใช้งานของร่างกายให้มากที่สุด
สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนการเลือกซื้อแคลเซียม
ถ้าคุณบริโภคแคลเซียมที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ซึ่่งส่วนใหญ่จะเป็นแคลเซียมที่เป็นสารอนินทรีย์ เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต นอกจากร่างกายจะนำไปใช้ประโยชน์ได้น้อยแล้ว ยังจะทำให้เกิดโทษแก่ร่างกายอีกด้วย เพราะเมื่อบริโภคเข้าไปแล้ว แคลเซียมคาร์บอเนตจะเข้าไปจับตัวกันและเกาะติดในบริเวณที่ร่างกายไม่ต้องการแคลเซียม เช่น หัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน และทำให้เกิดโรคหัวใจในที่สุด
แต่ถ้าคุณบริโภคแคลเซียมที่อยู่ในรูป "อะมิโนแอซิดคีเลต" ควบคู่กับ "แมกนีเซียม อะมิโนแอซิดคีเลต" แล้วนั้น แคลเซียมก็จะทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากขึ้น โดยการดูดซึมเข้าไปในอวัยวะที่ต้องการแคลเซียม เช่น กระดูกและฟัน
ส่วน "แมกนีเซียม อะมิโนแอซิดคีเลต" นั้นก็จะเข้าไปผลักดันแคลเซียมให้ออกจากกระแสเลือดและอวัยวะต่างๆ ที่ไม่ต้องการแคลเซียม เช่น หัวใจ และหลอดเลือด และที่สำคัญ "แมกนีเซียม อะมิโนแอซิด คีเลต" ยังมีส่วนช่วยทำงานคู่กับ "แคลเซียม อะมิโนแอซิดคีเลต" ควบคุมให้หัวใจมีความยืดหยุ่น ควบคุมการหดตและคลายตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติอีกด้วย
คุณรู้หรือไม่ว่านอกจากแมกนีเซียมจะช่วยเรื่องการดูดซึมแคลเซียมไปใช้งานแล้ว ยังช่วยปกป้องอวัยวะสำคัญจากการจับกันของแคลเซียม และช่วยรักษาอาการอุดตันของเส้นเลือดหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติ และยังเป็น ยากล่อมประสาททางธรรมชาติ อีกด้วย
ดังนั้น การขาดแมกนีเซียมจะทำให้เกิดอาการทางประสาท, กล้ามเนื้อลีบและบิดเบี้ยว, เกิดอาการกลัว, สมองและร่างกายอ่อนเพลีย, สับสนและหงุดหงิด, ควบคุมการทรงตัวไม่ได้, หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ, การไหลเวียนของโลหิตไม่ดี, หน้าซีด, ชัก, เป็นลม, ไมเกรน และการทำงานของต่อมต่างๆ ผิดปกติ
สำหรับอาการขาดแคลเซียมจะรวมถึงการไม่เจริญเติบโต, กระดูกและฟันไม่แข็งแรง, กล้ามเนื้อกระดูกเป็นตะคริว, เลือดแข็งตัวช้า, มีอาการทางประสาท, ตื่นตัวง่าย, คัน, นอนไม่หลับ, การเต้นของหัวใจผิดปกติ และเป็นเหน็บชาตามข้อมือและเท้า
หมายเหตุ การรับประทานแคลเซียมและแมกนีเซียมอะมิโนแอซิดคีเลต สามารถดูดซึมข้ามเซลล์ต่างๆ เข้าไปในกระแสเลือด เพื่อนำพาไปยังอวัยวะที่ต้องการได้เลย โดยไม่ต้องใช้วิตามินดีช่วยในการดูดซึมแคลเซียมแต่อย่างใด
กรณีศึกษาเพิ่มเติม
ผู้ป่วยที่ทนทุกข็กับการขาดแคลเซียม แม้รับประทานนมเป็นประจำวันละ 1แกลลอน (ประมาณ 4 ลิตร) รวมทั้งรับประทานอาหารปกติอื่นๆ จากการตรวจของแพทย์พบว่า มีแคลเซียมในปริมาณสูงมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ ในอุจจาระของผู้ป่วย
สาเหตุเพราะกรดในกระเพาะมีไม่เพียงพอที่จะทำให้แคลเซียมในน้ำนมแตกตัวและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้น แพทย์จึงแก้ไขโดยการให้ผู้ป่วยรับประทาน "แคลเซียม อะมิโนแอซิดคีเลต" ซึ่งจะไม่ดูดซึมที่ลำไส้ในบริเวณเดียวกับแคลเซียมในน้ำนม และไม่ขึ้นกับค่า PH ค่าความเป็นกรด-ด่างของร่างกาย จึงทำให้เห็นผลทันทีและช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลเซียมได้เป็นอย่างดี
ผลิตภัณฑ์แนะนำ
ซี เอ็ม (CM) : แคลเซียมอะมิโนแอซิดคีเลต + แมกนีเซียมอะมิโนแอซิดคีเลต + สังกะสี + วิตามินดี + โบรอน + ฯลฯ ช่วยบำรุงกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน เสริมระบบกล้ามเนื้อหัวใจ, กล้ามเนื้อ, ระบบประสาท